จังหวัดระยองประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ ครั้งที่ 15 แนวโน้มการติดเชื้อเริ่มสูงขึ้น ห่วงกลุ่มเด็กต่ำกว่า 6 ปี และเน้นย้ำต้องฉีดวัคซีนเข็ม 3

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ประชุมติดตามการดำเนินงานการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดระยอง ครั้งที่ 15 ประจำปี 2565 โดยมีนายแพทย์ สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมและรายงานข้อมูลการดำเนินการ สำหรับสถานการณ์ในช่วงนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 จังหวัดระยองเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่วนใหญ่จะพบในเขตเมืองอุตสาหกรรม หากดูในส่วนของเด็กอายุ 0 – 19 ปี พบว่ามีแนวโน้มพบการติดเชื้อสูงขึ้น โดยวันนี้มีเด็กอายุไม่เกิน 19 ปี ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 39 ราย แบ่งเป็น 0 – 6 ปี จำนวน 23 ราย อายุ 7 – 12 ปี จำนวน 6 ราย และอายุ 13 – 19 ปีจำนวน 10 ราย ซึ่งในกลุ่มเด็กต่ำกว่า 5 ปี จัดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากว่ายังไม่มีวัคซีนในเด็กกลุ่มนี้ ดังนั้นจะต้องดำเนินการตามคำแนะนำของสาธารณสุขและความสะอาดอย่างเคร่งครัด ส่วนอัตราความครอบคลุมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในจังหวัดระยอง ข้อมูล ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2565 พบว่ามีการฉีดวัคซีนเข็มแรก จำนวน 90.69% เข็มสอง จำนวน 86.66% และเข็มกระตุ้นหรือเข็มสาม จำนวน 49.88% ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่ต้องเกินกว่า 60% ซึ่งน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่ม 608 ผู้หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป รวมถึงกลุ่มคนที่อาจได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือกลัวการรับวัคซีนเข็มกระตุ้น

ทั้งนี้ นายชาญนะ เน้นย้ำในเรื่องของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นซึ่งมีความจำเป็นอย่างมาก จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างความเข้าใจและฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เนื่องจากในขณะนี้เริ่มมีการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็ขอความร่วมมือประชาชนทุกภาคส่วนสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าและไม่ประมาทในการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อลดการสัมผัสหรือแพร่เชื้อ ถึงแม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการ แต่การดูแลตนเองยังเป็นสิ่งจำเป็นทั้ง DMHTT VUCA หรือมาตรการอื่น ๆ ของทางสาธารณสุขยังคงใช้ได้เสมอ ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยงควรตรวจ ATK ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และต้องไปพบหมอที่โรงพยาบาล รพ.สต. ใกล้บ้านหากพบผลตรวจ ATK เป็นบวก เนื่องจากว่ามีประชาชนบางกลุ่มไม่ไปพบหมอที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลทำให้ไม่ได้เข้าระบบการรักษาแต่หาซื้อยามารักษาตัวเองซึ่งมีความเสี่ยงอาจเป็นอันตรายได้ในกรณีที่มีอาการหนักขึ้น ส่วนการจัดงานและกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจหรือกิจกรรมของหน่วยงานต่าง ๆ ขอให้เคร่งครัดตามมาตรการที่ทางสาธารณสุขกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนซึ่งจะเพิ่มภาระงานให้กับระบบการรักษาพยาบาล

 


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar